การขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น

การขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น

ผู้ประสบภัยหรือทายาท ต้องร้องของรับค่าเสียหายเบื้องต้นภายใน 180 วัน โดยขอรับได้ที่

* บริษัทประกันภัย

* สำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ

เอกสารประกอบการพิจารณาค่าสินไหม
ก.ในกรณีเสียชีวิต

ข. ในกรณีบาดเจ็บ

ค.ในกรณีสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ

ก. ในกรณีเสียชีวิต

เอกสารประกอบการพิจารณาค่าสินไหมในกรณีเสียชีวิต

1. คำร้องขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น บต.3 ซึ่งอนุโลมใช้ในกรณีร้องขอรับค่าสินไหมทดแทน(ส่วนเพิ่ม)ได้ด้วย

2. ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับจริง และใบรับรองแพทย์ (กรณีมีค่ารักษาพยาบาลด้วย)

3. ใบแจ้งค่ารักษาพยาบาล หรือ ใบสรุปหน้างบค่ารักษาพยาบาล (กรณีมีค่ารักษาพยาบาลด้วย)

4. สำเนาบันทึกรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีจากสถานีตำรวจกรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง โดยเจ้าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี

5. สำเนาใบชันสูตรพลิกศพของแพทย์ / รายงานแพทย์ / รายงานการตรวจศพ ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี

6. สำเนาใบมรณบัตรของผู้ประสบภัย (ต้องตรงกับต้นฉบับจริงและทายาทหรือผู้รับมอบอำนาจ ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง)

7. สำเนาบัตรประจำตัว หรือสูติบัตรของผู้ประสบภัย และสำเนาทะเบียนบ้าน ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง โดยทายาท (ในสำเนาทะเบียนบ้านต้องระบุว่า ตาย ตรงรายชื่อของผู้ประสบภัยที่เสียชีวิต)

8. สำเนาบัตรประจำตัวและ สำเนาทะเบียนบ้านของทายาท ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยทายาท

9. สำเนาบัตรประจำตัว หรือใบอนุญาตขับขี่ ของผู้ขับขี่รถคันที่ประกันภัยกับบริษัทฯ ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้ขับขี่

10. สำเนารายการจดทะเบียนของรถคันที่เอาประกันภัยกับบริษัทฯ ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้เอาประกันภัย

11. สำเนาตารางกรมธรรม์ (ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษีอย่างย่อ) ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้เอาประกันภัย

12. หากผู้ประสบภัยหรือทายาทไม่ได้มาดำเนินการเอง ให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทนก็ได้โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจต้นฉบับจริง พร้อมทั้งติดอากร 10 บาท และ สำเนาบัตรผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าของบัตร)
หมายเหตุ ทางบริษัทฯจะพิจารณาค่าสินไหมจ่ายเช็คในนามทายาทของผู้ประสบภัยเท่านั้น

ข.ในกรณีบาดเจ็บ
เอกสารประกอบการพิจารณาค่าสินไหมทดแทนในกรณีบาดเจ็บ
1. คำร้องขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น บต.3 ซึ่งอนุโลมใช้ในกรณีร้องขอรับค่าสินไหมทดแทน (ส่วนเพิ่ม)ได้ด้วย

2. ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับจริง และใบรับรองแพทย์

3. ใบแจ้งค่ารักษาพยาบาล หรือ ใบสรุปหน้างบค่ารักษาพยาบาล

4. สำเนาบันทึกรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี หรือรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐานจากสถานีตำรวจ (ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี)

5. สำเนาบัตรประจำตัว หรือสูติบัตรของผู้ประสบภัย (ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้ประสบภัยหรือทายาท)

6. สำเนาบัตรประจำตัว หรือใบอนุญาตขับขี่ ของผู้ขับขี่รถคันที่ประกันภัยกับบริษัทฯ ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง โดยผู้ขับขี่

7. สำเนารายการจดทะเบียนของรถคันที่เอาประกันภัยกับบริษัทฯ ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้เอาประกันภัย

8. สำเนาตารางกรมธรรม์ (ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษีอย่างย่อ) ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้เอาประกันภัย

9. หากผู้ประสบภัยหรือทายาทไม่ได้มาดำเนินการเอง ให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทนก็ได้โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจ ต้นฉบับจริง พร้อมทั้งติดอากร 10 บาท และ สำเนาบัตรผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าของบัตร)

10. หากเป็นการเบิกค่าสินไหมทดแทน(ส่วนเพิ่ม) และบริษัทฯ มีข้อสงสัย เกี่ยวกับการบาดเจ็บ การรักษา บริษัทฯจะต้องขอ สำเนาประวัติการรักษา(เวชระเบียน) จากโรงพยาบาล เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย ดังนั้น ผู้ประสบภัยหรือทายาทต้องลงชื่อ ในหนังสืออนุญาตให้สถานพยาบาล เปิดเผยประวัติการรักษาได้ ในแบบฟอร์มตามที่บริษัทฯ กำหนด

หมายเหตุ ทางบริษัทฯ จะพิจารณาค่าสินไหมทดแทน จ่ายเช็คในนามของผู้ประสบภัย หรือทายาท หรือผู้รับมอบอำนาจ

ค. ในกรณีสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ

1. ใช้เอกสารหลักฐานเช่นเดียวกับการเบิกค่าสินไหมทดแทนกรณีบาดเจ็บทุกอย่าง

2. ถ่ายรูปของผู้ประสบภัยให้เห็นทั้งตัว และอวัยวะที่สูญเสีย หรือทุพพลภาพ

3. สำเนาประวัติการรักษาพยาบาล(เวชระเบียน) ประทับตรา ร.พ.ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้มีอำนาจในการดำเนินการของโรงพยาบาล

หมายเหตุ ทางบริษัทฯจะพิจารณาค่าสินไหมจ่ายเช็ค ในนามของผู้ประสบภัย หรือทายาทเท่านั้น

คุณได้อะไรจาก พ.ร.บ.คุ้มครอง?

พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535

ใครบ้างที่ได้รับความคุ้มครอง

* ผู้ขับขี่รถ ผู้โดยสารรถ

* ผู้ที่กำลังขึ้นลงรถจากรถ หรืออยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของรถ

* คนเดินเท้า คนข้ามถนน

* คนที่พักอาศัยอยู่ในบ้าน และประสบอุบัติเหตุเนื่องจากรถ

ค่าเสียหายคุ้มครองตาม พ.ร.บ.

ค่าเสียหายเบื้องต้น จะจ่ายแก่ผู้ประสบภัยภายใน 7 วัน นับจากวันที่ยื่นคำขอพร้อมเอกสารใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล

ในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 จะแยกจ่ายเป็น 2 ขั้นตอนดังนี้.

ขั้นแรก จะจ่ายให้เป็นค่าเสียหายเบื้องต้น ในวงเงินค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกิน 15,000 บาท/คน ค่าปลงศพ 15,000 บาท/คน ก่อน

ขั้นที่สอง จะจ่ายเมื่อมีสรุปผลคดี หรือมีคำพิพากษาของศาล ระบุว่าผู้ขับขี่รถคันที่ประกันภัยกับบริษัทฯ เป็นผู้ขับขี่รถโดยประมาทฯแล้วเท่านั้น บริษัทฯจึงจะจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในส่วนที่เกินค่าเสียหายเบื้องต้นได้ โดย หากบาดเจ็บไม่สาหัส พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จะสรุปผลคดีว่าใครขับขี่รถโดยประมาทฯ ผู้ขับขี่รถประกันต้องยอมรับสารภาพ และลงชื่อเป็นผู้ต้องหา แล้วเท่านั้น จึงจะจ่ายได้ หากบาดเจ็บสาหัสหรือตาย ต้องส่งฟ้องศาล ต้องพิพากษาว่าขับขี่รถโดยประมาทฯ และผู้ขับขี่รถประกัน ยอมรับสารภาพแล้ว หรือผู้ขับขี่รถประกัน ขับขี่รถโดยประมาทฯ มีคำสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากผู้ขับขี่เสียชีวิตคดีอาญา เป็นอันระงับแล้วเท่านั้น จึงจะจ่ายได้

ค่าเสียหายเบื้องต้น

* กรณีบาดเจ็บแต่ไม่เสียชีวิต จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกิน 15,000 บาท/คน

* กรณีเสียชีวิต จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพไม่เกิน 15,000 บาท/คน

* กรณีสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกิน 15,000 บาท/คน

* กรณีเสียชีวิตโดยมีการรักษาพยาบาล จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกิน 15,000 บาท และค่าปลงศพ 15,000 บาท รวมกัน ไม่เกิน 30,000 บาท/คน

* ผู้ขับขี่รถโดยประมาทฯ มีสิทธิ์รับเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้น เป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกิน 15,000 บาท/คน ค่าปลงศพ 15,000 บาท/คนเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์รับค่าสินไหมทดแทนนอกเหนือจากนี้

ค่าสินไหมทดแทน นอกจากได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นแล้ว จะได้รับค่าสินไหมทดแทน(ส่วนเพิ่ม)เป็นดังนี้

* กรณีได้รับบาดเจ็บ จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเมื่อรวมกับค่าเสียหายเบื้องต้นแล้ว ไม่เกิน 50,000 บาท/คน

* กรณีเสียชีวิตโดยมีการรักษาพยาบาล จะได้รับค่าสินไหมทดแทน ซึ่งเมื่อรวมกับค่าเสียหายเบื้องต้นแล้ว ไม่เกิน 80,000 บาท/คน

* กรณีเสียชีวิตโดยไม่มีการรักษาพยาบาล จะได้รับค่าสินไหมทดแทน ซึ่งเมื่อรวมกับค่าเสียหายเบื้องต้นแล้ว ไม่เกิน 80,000 บาท/คน

* กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ จะได้รับค่าสินไหมทดแทน ซึ่งเมื่อรวมกับค่าเสียหายเบื้องต้นแล้ว ไม่เกิน 80,000 บาท/คน